วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

Talking English 2 ; By ....ศน.พรเพ็ญ



ลองนำประโยคสั้นๆ ไปใช้คุยกันวันละประโยค 2 ประโยค ดูนะคะ ........นึกไม่ออกก็พูดไทยได้เลย.....แต่พยายาม Speak English บ่อยๆ หน่อยก็ดี .... (ไม่ต้องกลัวพูดผิด ให้กล้าที่จะพูดแค่นั้นพอ)...Let's go....






การกล่าวขอบคุณ
การกล่าวขอบคุณ เมื่อต้องการกล่าวขอบคุณจะใช้ประโยคดังต่อไปนี้- Thank you very much for your help.( แธงค์กิ่ว เวรี มัช ฟอร์ ยัวร์ เฮว )ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือ- That’s very kind of you.( แดทส เวริ คาย อ๊อฟยู )ขอบคุณที่กรุณา- Thanks a lot .( แธงส อะลอทท์ )ขอบคุณมาก






สำหรับการพูดตอบรับการขอบคุณ
สำหรับการพูดตอบรับการขอบคุณ อาจใช้สำนวนต่อไปนี้- You’re welcome( ยัวร์อะ เวลคัม )ด้วยความยินดี- My pleasure( มาย พลีสเชอร์ )ด้วยความยินดี- Don’t mention it( โด้นท เม้นชั่น อิท )( ไม่เป็นไร )- Not at all( น๊อทแธท ออล )ไม่เป็นไร- Any time( เอ นิ ทาม )ยินดีเสมอตัวอย่างบทสนทนาTim : Thank you very much for the gift.ทิม : ( แธงค์ กิ่ว เวริ มัช ฟอเ ธอะ กิฟท์ )ขอบคุณมากสำหรับของขวัญSuda : Don’t mention itสุดา : ( โด้นท เม้นชั่น อิท )ไม่เป็นไรVipa : That’s very kind of you .Thanks.( แดทส เวริ คาย อ๊อฟ ยู แธงค์ )Suda : It’s my pleasure.( อิส มาย พลีสเชอร์ )






คำทักทาย ก่อนจากกัน ( Leave Taking ) - See you later ( again ก็ได้ )( ซี ยู เลเท่อร์ ( อะเกน ก็ได้) แล้วเจอกันอีกนะคะ- See you tomorrow. หรือ See you next time.( ซี ยู ทูมอโร่ หรือ ซี ยู เน็คสท์ ไทม์ )พบกันพรุ่งนี้ หรือ พบกันโอกาสหน้า นะคะ- Goodbye หรือ bye.( กึดบาย หรือ บาย ) ลาก่อน ใช้ตอนกลางวัน- So long( โซ ลองก์ )ลาก่อน ใช้กับคนสนิทกัน- Good night.( กึด ไน่ท์ )ลาก่อนใช้ตอนกลางคืน - See you.(ซี ยู )แล้วเจอกันนะ - Take care.( เท็ค แคร์ )รักษาสุขภาพนะ






การกล่าวขอโทษเมื่อขัดจังหวะ เพื่อสอบถามเรื่องอื่น ๆ
การกล่าวขอโทษเมื่อขัดจังหวะ เพื่อสอบถามเรื่องอื่น ๆ จะใช้- Excuse me( อิคคิวส มี )ขอโทษครับ หรืออาจจะพูดว่า- I beg your pardon.( ไอ เบค ยัวร์ พาเดิ้น )ขอโทษครับ ตัวอย่างเช่น- Excuse me, is this the way to the railway station ?( อิคสคิวส มี อีส ดีท เธอะ เวย์ ทู เดอะ เรลเวย์ สเตชั่น )ขอโทษครับนี่คือทางไปสถานีรถไฟใช่ไหม ตัวอย่างบทสนทนาA : I’m sorry I broke your vase.( อาม ซอริ ไอ โบรค ยัวร์ เวส )ฉันขอโทษด้วย ฉันทำแจกันแตกB: That’s all right.( แดทซอล ไรท์ )ไม่เป็นไรA: Will you please forgive me for not coming to your party last night ?( วิล ยู พลีล ฟอร์กีฟ มี ฟอร์ น๊อต คัมมิ่ง ทู ยัวร์ พาร์ติ ลาส ไนท์ )ขอโทษครับที่ไม่ได้ไปงานเลี้ยงของคุณเมื่อคืนนี้






การกล่าวขอโทษ การกล่าวขอโทษ เมื่อต้องการกล่าวขอโทษในสิ่งที่กระทำลงไปอย่างไม่ตั้งใจ จะใช้สำนวนต่อไปนี้- I must apologize for …………( ไอ มัส อะพอลโลไจซ ฟอร์ )ฉันต้องขอโทษสำหรับ..........- Please accept my apologies( พลีส แอ็คเซ็พท์ มาย อะพอลโลจีส์ )กรูณายกโทษให้ฉันด้วย- Please forgive me for………( พลีส ฟอร์กีฟ มี ฟอร์............... )กรุณายกโทษให้ฉันด้วยสำหรับ....................................- I’m really sorry.( อาม เรลลิ ซอริ )ฉันขอโทษจริงๆ- Sorry ! ( ซอริ )ขอโทษ






การกล่าวคำขอโทษ (Apologizing) โดยใช้คำว่า "Excuse me" ประโยคพูดอังกฤษเพื่อกล่าวคำขอโทษ โดยใช้คำว่า Excuse me มีดังนี้Excuse me. May I use your telephone?เอคซคิวส์ มี. เม ไอ ยูส ยัวร์ เทเลโฟน?ขอโทษครับ ผมขอใช้โทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหมครับ-------------------------------Excuse me. Could you tell me the way to the car park?เอคซคิวส์ มี. คูด ยู เทล มี เดอะ เวย์ ทู เดอะ คาร์ พาร์ค?ขอโทษครับ ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่า ที่จอดรถไปทางไหนครับ-------------------------------Excuse me. Is there a post office near here?เอคซคิวส์ มี. อิซ แดร์ อะ โพสท์ ออฟฟิซ เนียร์ เฮียร์?ขอโทษครับ แถวนี้มีไปรษณีย์ไหมครับ-------------------------------Excuse me. May I sit here?เอคซคิวส์ มี. เม ไอ ซิท เฮียร์?ขอโทษครับ ผมนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ-------------------------------Excuse me for a mement.เอคซคิวส์ มี ฟอร์ อะ โมเมนท์.ขอโทษครับ ขอตัวสักครู่ครับ






การกล่าวชมเชย
เมื่อต้องการกล่าวชมเชย จะใช้สำนวนต่อไปนี้- I like your hair. ( ไอ ไลท์ ยัวร์ แฮร์ ) ฉันชอบทรงผมของ - I really like your hair.(ไอ เรียวลิ่ ไลท์ ยัวร์ แฮร์ )ฉันชอบทรงผมของคุณจริง ๆ- What a nice dress !( วอท อะ ไน้ส เดรส )ชุดช่างสวยจริง ๆ- You look wonderful.( ยู ลุคค์ วันเดอร์ฟุล )คุณดูดีอย่างน่าพิศวงจัง- That’s a lovely shirt.( แธทส์ สะลัฟลิ เชิ๊ตท์ )เสื้อเชิ๊ตนั่นน่ารักจัง






การตอบรับการกล่าวชมเชย อาจพูดได้ดังนี้- Thank you very much.( แธงค์กิ่ว เวริ มัช )ขอบคุณมาก- It’s kind of you to say so.( อิทส คาย อ๊อฟ ยู ทู เซ โซ )ไม่มีคำแปลตรง ๆ เหมือนกับขอบคุณแล้วแต่ว่าชมเรื่องอะไรตัวอย่างบทสนทนาตัวอย่างที่ 1A : I really like your sweater .(ไอ รีอัลลิ่ ไลท์ ยัวร์ สเว็ทเทอร์ )ฉันชอบเสื้อกันหนาวของคุณจังB : Thanks.( แธงส์ )ขอบคุณตัวอย่างที่ 2A : This soup tastes good.( ธิส ซุป เทส กึด ) ซุปนี้รสชาติอร่อยจังB: I made it myself.( ไอ เมด อิท ไมเซ็ลท์ )ฉันทำด้วยตัวฉันเองA: You’re a wonderful cook .( ยัวร์ อะ วันเดอฟุล คุ๊ก)คุณช่างเป็นแม่ครัวที่เลิศจริง ๆB: It’s kind of you to say so.(อิทส์คาย อ๊อฟ ยู ทู เซ โซ ) ขอบคุณที่ชอบ






การเชิญ ( Inviting )
- Would you like to go to dinner tonight ?( วุ้ด ยู ไล้ท์ ทู โก ทู ดิ้นเน่อร์ ทูไน้ท์ )ดิฉันขอเชิญคุณมารับประทานอาหารค่ำ คืนนี้ค่ะ.- How about going……..?(ฮาว อะเบ้าท์ โกอิ่ง ……)อยากเชิญคุณ ....... .- Would you like to go…….?(วุ้ด ยู ไล้ท์ ทู โก ….. )อยากเชิญคุณ ........ .- Will you be able to go……?(วิล ยู บี เอ้เบิ่ล ทู โก…..)อยากเชิญคุณ …… .- Would you care for a drink ?(วุ้ด ยู แคร์ ฟอร์ อะ ดริ้ง )ดื่มอะไรไหมค่ะตัวอย่างบทสนทนาA : Can you have lunch with me tomorrow ?(แคน ยู แฮฟ ลั้นช วิช มี ทูมอโร่ )ตอนเที่ยงพรุ่งนี้ทานอาหารด้วยกันไหมคะB : Yes , I will be glad to. Where ?( เยส ไอ วิล บี แกลด ทู, แวร์ )ยินดีค่ะ ที่ไหนค่ะ ?A : How about having it at my house?( ฮาว อะเบ้าท์ แฮพหวิ่ง อิ่ท แอทท์ มาย เฮาซ์ )ที่บ้านดิฉันดีไหมค่ะ ?B : Yes, that will be just great . What time?( เย้ส, แธ็ท วิล บี จัสท์ เกรท. ว้อทไทม์?)เหมาะค่ะ กี่โมงดีคะ.หรือ พูดว่า “ Wonderful “ ( วั้นเดอร์ฟุล ) หรือ Great (เกรท) ก็ได้หรือ พูดว่า Fine. Thanks for asking.(ไฟน์ แธ็งส์ ฟอร์ อาสกิ่ง)สะดวกค่ะ ขอบคุณที่เชิญA : Hope you can come.(โฮพ ยู แคนน์ คัม )หวังว่าคงมาได้นะB : I won’ t miss.(ไอ โว้นท์ มิส )ฉันจะไม่ยอมพลาดแน่









Talking English บทสนทนาในชีวิตประจำวัน




By... ศน.พรเพ็ญ ฤทธิลัน


การทักทายหรือสวัสดีในภาษาไทย (Greeting) เมื่อเราพบกันจะมีการทักทายพูดคุย เริ่มต้นด้วยประโยคเหล่านี้ทุกครั้ง ซึ่งมีดังต่อไปนี้-



Good morning( กึด มอร์หนิ่ง )คำทักทายตอนเช้าถึงเที่ยง-



Good afternoon( กึด อ่าฟเทอร์นูน)คำทักทายตอนหลังเที่ยงถึงก่อนพลบค่ำหรือเย็น-



Good evening( กึด อีฟเว็นหนิ่ง )คำทักทายตอนเย็นหรือพลบค่ำ-



Hello ! (เฮลโล่) หรือ Hullo ! (ฮัลโล่) หรือ Hi ! (ไฮ)ใช้กล่าวสวัสดีทั่วไปไม่จำกัดเวลา สามารถเอ่ยชื่อบุคคลตามหลังคำกล่าวสวัสดีเหล่านี้ได้เช่น Hi, Jenny.



และมักสนทนาต่อด้วยประโยคต่อดังนี้- How do you do ?( ฮาว ดู ยู ดู )สบายดีหรือ ใช้เมื่อพบกันครั้งแรกในชีวิต พูดตอบคำเดิม คือ How do you do ?พบกันครั้งต่อไปให้ทักว่า- How are you ?( ฮาว อาร์ ยู )สบายดีหรือ .ใช้ในโอกาสทั่วไป



คำตอบ คือ I' m fine หรือ well หรือ quite well .(ไอแอมไฟน์หรืออามไฟน์ หรือ เวล ไคว้ เวล )สบายดี-



Not well.(น้อท เวล)ไม่ค่อยสบาย



- I have a head ache.( ไอ แฮฟว์ อะ เฮ้ด เอ่ค )รู้สึกปวดศีรษะ



- I have the flu.ไอ แฮฟว์ .เธอะ ฟลู )ไข้หวัดใหญ่



- Not so well, thanks. I ( have ) got a cold. หรือ I have a cold.( น้อท โซ เวล, แธ้งส์ . ไอ แฮบว์ ก้อทอ ะ โคลด์ หรือ ไอ แฮบว์อะ โคล )ไม่สบายค่ะ เป็นหวัด



- I have a stomach ache.(ไอ แฮฟว์ สทั่มมัค เอ้ค )ดิฉันปวดท้องหรือกระเพาะอาหาร



- I have a tooth ache( ไอ แฮฟว์ ทูธ เอ้ค )ดิฉันปวดฟัน



- My gums are sore.. ( มายกัมส์ อาร์ ซอร์ )ดิฉันปวดเหงือก



- Where are you going ?( แวร์ อาร์ ยู โก๊อิ่ง )จะไปไหนคะ



- To the market( ทู เธอะ ม้าร์เก็ตท )ไปตลาดค่ะ






- Pom, this is Thong and Thong, this is Pom.(ป้อม ธิส อีส ต๋อง แอน ต๋อง ธิส อิส ป้อม)เป็นการแนะนำให้บุคคล 2 คนรู้จักกัน คือ ป้อม, นี่ต๋องนะคะ แล้ว ต๋อง,นี่ป้อมค่ะทั้งป้อมและต๋องทักทายกันและกันว่า



“ ดีใจ ( ยินดี ) ที่รู้จัก .... .” ดังนี้ คือ- Glad to meet you( แกลด ทู มีท ยู่ )ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ



- How nice ( wonderful ) to ( see) meet you.( ฮาวไนส์ หรือวันเคอฟุล ทู (ซี) หรือ มีท ยู่ยินดีที่ได้รู้จักคุณ



- Pleased to see you.( พลีสท์ ทู ซียู่ )ยินดีที่ได้รู้จักคุณ



- Pleased to meet you.(พลีส ทู มีท ยู)ยินดีที่ได้รู้จักคุณ

English Speaking Year 2012


ในปี2558 นี้ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หลายคนคงสงสัยว่าแล้วการศึกษาบ้านเรา มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง


ล่าสุด กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จะประกาศให้ปี2555 เป็นปีของการส่งเสริมการสื่อสารภาษาอังกฤษ และได้ริเริ่มโครงการ English Speaking Year 2012 เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารให้มากขึ้น โดยกำหนดให้สถานศึกษาในทุกระดับทุกระบบในสังกัด ใน1สัปดาห์ จะต้องมี1วัน ที่ครูและนักเรียน นักศึกษา ได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันโดยใช้ภาษาอังกฤษ เช่น จัดมุมภาษาอังกฤษ การฝึกนักเรียนเป็นมัคคุเทศก์ โดยจะทยอยดำเนินการในโรงเรียนที่มีความพร้อมก่อนแล้วจึงขยายไปเรื่อยๆ และจะพยายามสร้างแรงจูงใจให้กับโรงเรียน เช่น หากโรงเรียนใดสามารถดำเนินการได้สัมฤทธิ์ผล ก็อาจจะมีรางวัลโดยให้ทุนไปศึกษาดูงานในประเทศอาเซียน เป็นต้นนอกจากนี้จะจัดอบรมครูทั่วประเทศให้มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในการสื่อสาร และการเรียนการสอน โดยจะดำเนินการกิจกรรมตามโครงการ ร่วมกับสถานทูต องค์กรต่างประเทศ หรือตัวแทนจากสถาบันภาษาเข้าร่วม เช่น AUA, British Councilนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราจะได้เห็นการศึกษาไทยพัฒนาด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมรับมือเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้



หลังจากที่ ศธ.ได้เปิดตัวโครงการ “พ.ศ. 2555 ปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ (English Speaking Year 2012)” ไป แล้วนั้น เพื่อทำให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ในทางปฏิบัติ ศธ.จะดำเนินการขอร้องแกมบังคับให้สถานศึกษา และสถานที่ราชการในสังกัด ศธ. รวมทั้ง ศธ.เอง พูดภาษาอังกฤษในวันจันทร์ของทุกสัปดาห์แต่เนื่องจากสัปดาห์แรกในวันทำการของปี 2555 เป็นวันพุธ ดังนั้นในวันที่ 4 ม.ค.55 จะเป็นวันแรกที่ใช้การสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นจะให้ปฏิบัติในทุกวันจันทร์






credit : blog.eduzones.com/anisada/86854